เจริญขายเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36พ่วง4ตึกหรู

เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36 “เจริญ”เขย่าพอร์ตอสังหาฯ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36 ครั้งใหญ่ เข็น 5 ตึกหรูใจกลางเมืองมูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ระดมทุนจากประชาชน ผ่านกองทุนอสังหาฯ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36นำเงินชำระหนี้-คืนกำไรผู้ถือหน่วยลงทุน เปิดสินทรัพย์

เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ก้อนใหญ่สุด 1.5 หมื่นล้าน อาคารไซเบอร์เวิร์ลด โครงการยนตรกิจ สุรวงศ์ อาคาร 208 และแอทธินี ทาวเวอร์ คาดระดมทุนต้นปีหน้า บลจ.กรุงไทยฯ เผยเป็นกองทุนอาคารสำนักงานใหญ่ที่สุดในประเทศ แย้มมีแผนนำห้างพันธุ์ทิพย์สาขาเชียงใหม่ เข้ากองทุนกลุ่มห้างต่อเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36

นางชวินดา หาญรัตนกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ให้กับกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นายเจริญมีแผนนำโครงการอาคารประเภทสำนักงาน จำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ มาระดมทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36 เพื่อนำเงินชำระหนี้แก่สถาบันการเงิน คืนเงินแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนอสังหาฯ ประเภทกอง 2 และกอง 4เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36

สำหรับอสังหาฯที่จะนำมาระดมทุน เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36ล้วนอยู่ในทำเลทอง มีพื้นที่ดินรวมประมาณ 27 ไร่ 3 งาน 57.70 ตารางวา และพื้นที่อาคารรวมประมาณ 6.64 แสนตารางเมตร (ไม่รวมพื้นที่ใช้สอยของอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เนื้อที่ 168 ตารางเมตร ของโครงการยนตรกิจ สุรวงศ์ ) ประกอบด้วย

1.อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ (ทำเลบนถนนสาทร-นราธิวาสฯ) ราคาที่คาดว่าจะขายเข้ากองทุน 1.5 หมื่นล้านบาท 2.อาคารไซเบอร์เวิร์ลด (ย่านรัชดา) 5.83 พันล้านบาท 3. โครงการยนตรกิจ สุรวงศ์ 600 ล้านบาท 4.อาคารสำนักงาน 208 (ถนนวิทยุ ) มูลค่า 1.4 พันล้านบาท และ 5.โครงการแอทธินี ทาวเวอร์ (บางรัก) มูลค่า 2.8 พันล้านบาท

นางชวินดา กล่าวว่า เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36สินทรัพย์ที่กล่าวข้างต้น จะขายเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ (TCIF) หรือเดิมคือ อาคารเนชั่น ทาวเวอร์ และภายหลังที่นายเจริญได้เข้าไปซื้อ จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นอาคารทีซีไอเอฟ ทาวเวอร์ โดยวันที่ 11 ตุลาคม 2555 คณะกรรมการการลงทุนกองทุนรวมอสังหาฯไทยคอมเมอร์เชียล ฯ ได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนไม่เกิน 2.58 หมื่นล้านบาท โดยการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่เพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 2.2 พันล้านหน่วยเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36

เมื่อรวมกับทุนจดทะเบียนของกองทุนในปัจจุบันที่ 1.96 พันล้านบาท จะทำให้มีทุนจดทะเบียนใหม่เป็นไม่เกิน 2.77 หมื่นล้านบาท เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36และมีจำนวนหน่วยลงทุนหลังการเพิ่มทุนไม่เกิน 2.4 พันล้านหน่วย เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งจะเรียกประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2555 ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36

โดยบลจ.กรุงไทยฯ คาดว่า หลังจากประชุมผู้ถือหน่วยเสร็จสิ้น เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36จะยื่นขออนุมัติเพิ่มทุนต่อเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และคาดว่าจะสามารถลงทุนได้จริงประมาณต้นปี 2556 “หากเพิ่มทุนสำเร็จ กองทุนอสังหาฯ ไทยคอมเมอร์เชียลฯ จะกลายเป็นกองทุนประเภทอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ”

นางชวินดา กล่าวถึงผลตอบแทนของกองทุนรวมอสังหาฯไทยคอมเมอร์เชียล ฯ ว่า ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน( 2 ปีครึ่ง) ได้จ่ายปันผลแล้ว 5 ครั้งโดยจ่ายปีละ 2 ครั้ง รวมจ่ายแล้ว 1 บาทต่อหน่วย คิดเป็นผลตอบแทนต่อหน่วย 10 % และเมื่อรวมผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา โดยอ้างอิงราคาปิด ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2555 เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36 ซึ่งอยู่ที่ 12.30 บาทต่อหน่วย พบว่ากองทุนดังกล่าว ให้ผลตอบแทนรวมกว่า 30 % แล้ว ด้านราคาค่าเช่าก็ขยับขึ้นจาก 200 บาทต่อตารางเมตรเป็น 300 บาทต่อตารางเมตรในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี ซึ่งถือว่าดีมาก

นอกจากนี้บลจ.กรุงไทยฯยังพิจารณาขยายขนาดสินทรัพย์ ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทล อินเวสเม้นต์ หรือกองทุนอสังหาฯ ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า สาขางามวงศ์วาน โดยห้างพันธุ์ทิพย์ ที่กำลังดูอยู่นั้นคือที่เชียงใหม่ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36

อนึ่ง ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เป็นธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มนายเจริญ ที่ชูคอนเซ็ปต์ห้างค้าปลีกสินค้าด้านไอที ปัจจุบันห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า มี 5 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 3 สาขา คือ ประตูน้ำ งามวงศ์วาน และบางกะปิ ส่วนต่างจังหวัดมีที่เชียงใหม่ 2 สาขา

ข้อมูลจากบลจ.กรุงไทยฯ เปิดเผยถึงรายละเอียดของทรัพย์สินทั้ง 5 ชิ้น ที่กองทุนรวมอสังหาฯไทยคอมเมอร์เชียลฯจะเข้าลงทุน โดยอาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์นั้น จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ในที่ดิน รวมประมาณ 8 ไร่ 58.7 ตารางวา และยังลงทุนในกรรมสิทธิ์ในอาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารที่ใช้ประโยชน์เป็นสำนักงาน จำนวน 58 ชั้นและชั้นใต้ดิน 6 ชั้น มีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 3.13 แสนตารางเมตร และอาคารควบคุมไฟฟ้าจำนวน 2 ชั้น และมีชั้นไต้ดิน 2 ชั้น พื้นที่รวมประมาณ 1,754 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่อาคารรวมประมาณ 3.14 แสนตารางเมตร

รายงานยังระบุอีกว่า การเข้าลงทุนในโครงการเอ็มไพร์นี้ เจ้าของทรัพย์สินซึ่งเป็นกองทุนรวมรีเจนท์ โกลด์ พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ มีแผนจะปรับปรุงทรัพย์สิน และมีการกำหนดเงินทุนสำรองเพื่อใช้ในการปรับปรุง โครงการเอ็มไพร์ไว้แล้ว เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36

อาคารไซเบอร์เวิร์ลด กองทุนลงทุนในกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เนื้อที่รวมประมาณ 7 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา และลงทุนในกรรมสิทธิ์อาคารไซเบร์เวิร์ลด จำนวน 51 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น พื้นที่ประมาณ 2.04 แสนตารางเมตร เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36

โครงการยนตรกิจ สุรวงศ์ กองทุนจะลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 โฉนด.เนื้อที่รวมประมาณ 2ไร่ 3 งาน 47 ตารางวา

อาคารสำนักงาน 208 บนถนนวิทยุ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 36กองทุนจะลงทุนในกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 3 โฉนด เนื้อที่ประมาณ 2ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา และลงทุนในกรรมสิทธิ์ในอาคาร 208 Wireless Road Building ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานจำนวน 18 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 2.49 หมื่นตารางเมตร

สำหรับโครงการแอทธินี ทาวเวอร์ กองทุนจะลงทุนในสิทธิการเช่า หรือเช่าช่วงที่ดิน โดยมีเนื้อที่ดินตามเอกสารสิทธิ รวมประมาณ 10 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวา และเนื้อที่ตามสิทธิการเช่า รวมประมาณ 6 ไร่ 1 งาน 70 ตารางวา รวมถึงลงทุนโดยการซื้อหรือเช่าหรือเช่าช่วงอาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารที่ใช้ประโยชน์เป็นอาคารสำนักงาน จำนวน 36 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น โดยมีขนาดพื้นที่อาคารรวมประมาณ 8.55 หมื่นตารางเมตร